Jump to ratings and reviews
Rate this book

Bác Sĩ Cuối Cùng Dưới Tán Hoa Anh Đào

Rate this book
“Ông còn nửa năm để sống…”. Tại một bệnh viện nọ, bác sĩ Kiriko – người được mệnh danh là thần chết – đã nói với bệnh nhân như vậy. Anh giải thích rằng khi đón nhận cái chết, ta sẽ trân trọng những ngày còn lại.

Tuy nhiên, phó viện trưởng Fukuhara lại tin vào điều kỳ diệu, anh sẽ không ruồng bỏ ‘sự sống’ cho đến phút cuối cùng.

Kết cục của cuộc đối đầu trong thời gian có hạn giữa hai con người đối lập này là?

Trước lựa chọn cuối cùng, bệnh nhân có thể quyết định được không?

Ánh sáng lấp lánh của sự sống được vẽ theo cách sống của từng người.

Câu chuyện về nghề y nghẹt thở và đầy cảm động.

480 pages, Paperback

Published May 28, 2020

10 people are currently reading
117 people want to read

About the author

Atsuto Ninomiya

33 books1 follower

Ratings & Reviews

What do you think?
Rate this book

Friends & Following

Create a free account to discover what your friends think of this book!

Community Reviews

5 stars
74 (49%)
4 stars
60 (39%)
3 stars
16 (10%)
2 stars
1 (<1%)
1 star
0 (0%)
Displaying 1 - 27 of 27 reviews
Profile Image for Polyj.
1,201 reviews95 followers
May 13, 2021
ดีมากกกกกกกก อ่านในฐานะหมอ รายละเอียดตัวโรค การรักษาต่าง ๆ ดีมาก ส่วนประเด็นความขัดแย้งในเรื่องเราก็จะมี Bias นิด ๆ ตามความคิดของหมอสาย paliative
หมอสองคน มีความคิดต่างกันสุดขั้ว คนนึงคิดว่าคนไข้ทุกคน ควรได้รับการรักษาอย่างเต็มที่แม้ทางรอดจะน้อยแต่ก็ยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ อีกคนเชื่อว่าการมีชีวิตคือการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถ้าต้องทนทรมานเพื่อยื้อลมหายใจแต่ไม่ได้ใช้ชีวิตให้ดีก็ถือว่าไม่คุ้มกัน
เรื่องนี้เล่าถึงผู้ป่วย 3 เคสหลัก ๆ ที่ต้องการการตัดสินใจเลือกหนทางรักษา และเป็นการขับเคี่ยวแข่งกันกลาย ๆ ของหมอสองขั้ว
...สุดท้ายก็ต้องถือเอาความต้องการของคนไข้ที่จะตัดสินใจในการจะรักษาต่อจนสุดทางหรือพอแค่นี้แล้วได้ใช้ขีวิตในนาทีสุดท้ายอย่างที่ตนต้องการ
ไม่มีทางไหนถูก หรือผิด มีแต่ทางไหนจะเหมาะกับคนไหน ตรงใจกับคนไหนมากกว่า
Profile Image for Patrawan Dear.
1,467 reviews144 followers
Read
November 29, 2021
#หมอคนสุดท้ายจะนึกถึงคุณเมื่อมองดูซากุระ

"คุณจะโอบกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้ หรือยืนมองซากุระโรยราที่รอวันปลิดปลิว..."

นี่เป็นหนังสือที่สร้างความขัดแย้งในใจคนอ่านได้ตลอดการอ่าน นำเสนอเรื่องราวของคนไข้ที่มาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต ได้มาพบกับคุณหมอสองคนที่มีแนวคิดแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว คนหนึ่งเชื่อในความหวังและปาฏิหาริย์ ส่วนอีกคนเชื่อว่าการเลือกที่จะตายโดยใช้เวลาที่เหลืออย่างคุ้มค่านั้น เป็นทางเลือกที่คนไข้สามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง

ผู้เขียนเล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์เจ็บป่วยและความตายของคนสามคน สามสถานการณ์ ผ่านความสัมพันธ์ของเพื่อนหมอสามคน ซึ่งมันตราตรึงอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็นในด้านความรู้สึกของคนไข้ ความรู้สึกของหมอ หรือในด้านแนวคิดที่ต้องเลือกภายใต้ความจำเป็นและความต้องการของแต่ละบุคคล

ระหว่างการอ่านต้องหยุดพักเป็นระยะ เพื่อคิดตาม และภาวนาขออย่าได้พบเจอเหตุการณ์ใดใดที่ต้องตัดสินใจอย่างในเรื่องเลย และแม้อ่านจบจะยังไม่ได้คำตอบอะไรก็ตาม แต่สิ่งที่ได้คือความสั่นสะเทือนทางอารมณ์อย่างรุนแรง เหมือนจะถูกกระตุ้นให้เรียนรู้และเริ่มทำอะไรบางอย่างในช่วงเวลาที่เหลืออยู่

นับว่าเป็นหนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี ส่งสารได้แข็งแกร่ง impact แรงเพียงพอ และที่ไม่ชมไม่ได้คือสำนวนแปลที่เรียบง่าย แต่อ่านได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด

ปีนี้ทั้งปียังอ่านไปได้ไม่ถึงสองร้อยเล่ม ถึงจะน้อยมาก แต่ที่ชอบมากก็น้อยตามไปด้วย เท่าที่จำได้ นอกจากสัญญาณเตือนตายแล้ว ก็มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ชอบมากจริง ๆ

แนะนำสำหรับคนที่ชอบอ่านแนวหนัก ๆ คิดเยอะ ๆ ค่ะ :)
Profile Image for Clairdenoon.
1,896 reviews379 followers
November 20, 2021
"เมื่อยอมรับความตายได้ก็น่าจะพูดได้ว่าคุณเอาชนะความตายได้แล้วนะครับ"
.
บันทึกการอ่าน
#The Last Doctors Think of You
Whenever They Look Up to Cherry Blossoms
#หมอคนสุดท้ายจะนึกถึงคุณเมื่อมองดูซากุระ🌸
#นิโนมิยะ อัตสึโตะ[เขียน]
#อภิญญา เตชะบุญไพศาล[แปล]
#สนพ.น้ำพุ
#มี488หน้า(หน้าสุดท้ายของเนื้อหาคือหน้า486)
#ราคาปก335.-
(ซื้อมือ1มาในราคา244฿/หนังสือขนาดพ็อคเกตบุ๊คเรื่องนี้ไม่มีที่คั่นและไม่ได้ซีลมาตั้งแต่แรกจากสนพ.เห็นมีคนบ่นร้านขายหนังสือเรื่องนี้/โชคดีที่ร้านที่ซื้อ~ห่อใส่ถุงและแถมที่คั่นมาให้เสร็จสรรพ👏🏼👏🏼👏🏼)

.
1.สำหรับเรา~หมอคนสุดท้ายฯคือหนังสือที่อ่านเพื่อปลง/มรณานุสติ/ระลึกถึงความตาย🥀ความหมายของการมีชีวิต⚰
-ไม่มีพระเอก-นางเอก-หรือเรื่องรักหวานๆฟินๆฟรุ้งฟริ้งชวนฝัน🙅‍♀️
-มีตัวละครเอกเป็นหมอผู้ชาย2คน~แต่ไม่ใช่นิยายวาย🌈
-หน้าปกดูละมุนละไมหวานกรุบด้วยดอกซากุระพร่างพราย🌸 แต่ถ้ามองดีๆนี้คือ...สุสาน...และคุณหมอในชุดกาวน์ที่เดินหันหลังจากไปนั้นคือใคร....เฉลยอยู่ที่หน้าสุดท้าย


2.เป็นเรื่องราวของหมอ3คนที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคณะแพทย์ที่เรียนมาด้วยกัน
~2คนมีความคิดต่างกันสุดขั้ว/อีกคนเป็นคนกลางคอยประนีประนอมไกล่เกลี่ย
(1)คนแรก-คุณหมอฟุกุฮาระ มาซากาสึ🦄
รองผ.อ.ร.พ.(มีพ่อเป็นผ.อ.)/ศัลยแพทย์อัจฉริยะ
ผู้มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการช่วยชีวิตคนไข้ ให้กำลังใจคนไข้และญาติให้สู้ๆฮึบๆไปด้วยกัน คาดหวังในปาฏิหารย์ไปด้วยกัน

(2)คนที่สอง-คุณหมอคิริโกะ ชูจิ😈
"ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในขั้นที่จะมาถกกันว่าจะตายหรือไม่แล้วนะครับ เสียเวลาเปล่าเพราะยังไงก็ตายแน่นอน"
แพทย์ในแผนกโรคผิวหนัง ผู้มีความเชื่อว่าคนไข้มีสิทธิ์เลือกความตาย/ดูใจร้ายเย็นชาโนสนโนแคร์ช่างแม่ง/ดูแปลกแยก/ดูหัวเดียวกระเทียมลีบที่สุดในโรงพยาบาล/มีสมญานามว่ายมทูต
ฟีลแบบว่าเป็นคุณหมอที่มีคำพูดตรงๆ พูดให้ตัดใจ ปล่อยวาง พูดเรื่องจริงที่บั่นทอนกำลังใจ ให้เตรียมตัวตายอย่างมีคุณค่าดีกว่ามาเสียเวลาที่โรงพยาบาลเมื่อเห็นว่าทางรักษาให้หายนั้นริบหรี่

(3)คนที่สาม--คุณหมอโอโตยามะ ฮารุโอะ
เป็นเหมือนคนกลางของ(1)กับ(2) ที่คอยประนีประนอม คอยลุ้นอยากให้ทั้งคู่คืนดีกัน ร่วมมือกัน คุณหมอโอโตยามะสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็กเติบโตมากับคุณยายเลยรักยายมากกกก~ในเรื่องนี้ ตัวละครที่ชอบมากที่สุดก็คุณหมอโอโตยามะนี่แหละ❤😢


3.เล่าเรื่องราวความตายของคนไข้ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลมุซาชิโนะชิจิจูจิ
ผ่านเคส3เคส(เคสละบท)และตัวละครหลักๆคือคุณหมอทั้ง3คน....
บทที่1---ความตายของพนักงานบริษัทคนหนึ่ง
---เรื่องราวของคุณฮายามะ เป็นพนักงานบริษัทที่อยู่ๆก็เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน ทั้งที่กำลังจะนำเสนองานที่เตรียมการณ์มาหลายเดือน และภรรยาก็กำลังตั้งท้องลูกชาย 😢
--ซีนที่เปิดหูเปิดตาที่สุดสำหรับเราคือ ซีนเก็บอสุจิของคุณฮายามะ(ก่อนทำการรักษาด้วยเคมีบำบัดแล้วจะทำให้ระบบสืบพันธ์ใช้การไม่ได้อีกต่อไป)ในห้องเก็บอสุจิ จะมีหนังAVและหนังสือโป๊อยู่ เป็นคนป่วยที่ไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะกินข้าวแต่ต้องกระทำการด้วยอารมณ์แบบนั้นคือ ทึ่งมากๆ😲

บทที่2---ความตายของนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่ง
----เรื่องราวของคาวาสึมิ มาริเอะ เด็กสาวที่เพิ่งสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์(ม.เดียวกับหมอๆทั้ง3=รุ่นน้อง)หลังจากสอบเอนท์ไม่ผ่านมา3ครั้ง ครั้งนี้เธอสอบผ่านและได้เข้าไปเป็นนักศึกษาแพทย์ปี1สมดังความมุ่งหวัง แต่แล้วหลังจากเปิดเทอมไม่นาน...เธอก็พบว่าเธอเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงALS(Amyotrophic Lateral Sclerosis )และร่างกายกำลังจะค่อยๆเป็นอัมพาต....😢

บทที่3---ความตายของหมอคนหนึ่ง
-----คุณหมอที่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งคอหอย...คนนี้คือพีคมากกก🤫🤫🤫🤫🤫🤫🤫🙊🙊🙊

3.ความรู้สึก:
อ่านในมุมมองของอดีตญาติผู้ป่วยที่เคยเจอหมอพูดตรงพูดแรงแบบคุณหมอคิริโกะ... และยังฝังใจเจ็บจนถึงวันนี้ (ระดับท���่ไม่จำเป็นจะไม่ผ่านไปโรงพยาบาลนั้นอีกเลย)
เรื่องนี้เปิดหูเปิดตาทำให้เข้าใจหมอ ลองมองในมุมมองของหมอมากขึ้น รับรู้ว่าหมอต้องอยู่ในโรงพยาบาลสถานที่ที่ต้องพบเจอการตายและการพรากจากเป็นพันๆหมื่นๆเคส หมอก็มีมุมมองแบบหมอ และถ้าหมอจะเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดา ชินชา ซ้ำซากจำเจ จนเฉยๆก็ไม่แปลก
แต่สำหรับเราเรื่องนี้มันคือเรื่องครั้งหนึ่งในชีวิต หนึ่งเดียวที่เกิดขึ้นและจำจนตาย ถึงจะเข้าใจ รับรู้ว่านี่คือความจริง...แต่ก็ยังมีอคติและไม่ชอบวิธีการแบบคุณหมอคิริโกะอยู่ดี...

4.อ่านได้แบบไม่เบื่อ (ไม่ได้ถึงกับร้องไห้แต่มีซึมๆถอนหายใจเฮ้อออบ้าง) เข้าถึงอารมณ์ของคนไข้ที่เข้ารับการรักษา บรรยายอาการ ความรู้สึกของคนไข้ได้ดี ในมุมมองของคนที่เคยใกล้ชิดผู้ป่วยโรคมะเร็งคืออ่านแล้วมันใช่ มีเรื่องให้ชวนขบคิดพิินิจพิเคราะห์ต่อๆไปแม้จะอ่านจบ เรียกว่าอ่านเพียงครั้งเดียว แต่ติดในใจชั่วกาลลล🤣555 เป็นเรื่องที่น่าลองอ่านสักครั้งในชีวิตค่ะ❤
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for Seamonkey.
179 reviews38 followers
October 11, 2021
สนุกอยู่แหละ อ่านได้เพลินเลย แต่ยังไม่ถึงขั้นประทับใจมากมายเท่าไรนัก

ประเด็นสำคัญของเรื่องสิที่น่าสนใจ คือการต้องเลือกระหว่าง ปริมาณ กับ คุณภาพ อันนี้น่าคิด เพราะแต่ละคนก็คงจะคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
และโดยส่วนตัว ค่อนข้างคิดไปทางคิริโกะ

เรื่องความแม่นของการรักษา อาการของโรค อันนี้ไม่แปลกใจ เพราะขนาดมังงะบางเรื่องยังอธิบายกันละเอียดยิบย่อย

ติดนิดนึงตรงที่ว่าผู้เขียนกำหนดให้ไปเรียกคิริโกะว่ายมทูต มันไม่ค่อยแฟร์ เค้าไม่ได้ยื่นความตายให้คนไข้ หรือบอกให้คนไข้เลือกความตายเท่านั้น แต่วินิจฉัยตามอาการของโรคแล้วอธิบายให้คนไข้ฟัง แล้วให้คนไข้ตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาเอง อย่างนี้ไปยัดเยียดว่าเป็นยมทูตไม่ได้นา

เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องมาถามตัวเองแหละว่าอยากมีชีวิตอยู่อย่างไร มีชีวิตที่แค่เพียงยังมีลมหายใจ หรือได้ทำตามเจตจำนงของตัวเราเองจริงๆ
Profile Image for Wanyiwa.
1,520 reviews131 followers
December 30, 2021
นิยายที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยและความตาย เรื่องใกล้ตัวที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกคุ้นเคยและอินไปกับความรู้สึกของตัวละครได้ไม่ยาก เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแนวคิดในการรักษาผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่แตกต่างกันมาก ๆ 2 ขั้ว ผ่านมุมมองของแพทย์สองคน คนหนึ่งเชื่อว่าปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอแม้จะเหลือความหวังเพียงน้อยนิด แต่ตราบใดที่สามารถยื้อชีวิตคนไข้ไว้ได้ นั่นคือสิ่งที่แพทย์ควรจะทำที่สุด ในขณะที่อีกฝ่ายเชื่อว่าหากยื้อเวลาไปแล้วคนไข้มีแต่ทรมานแต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ แล้วจะยื้อชีวิตไว้ทำไม โดยพูดถึงการรักษาคนไข้ระยะสุดท้าย 3 รายที่สะท้อนภาพให้คนอ่านเห็นชัดขึ้นไปอีก ซึ่งมีทั้งคนไข้ที่เลือกจะกอดความหวังและรักษาชีวิตไว้จนวินาทีสุดท้าย และคนไข้ที่เลือกที่จะปล่อยให้ตัวเองสิ้นลมไปโดยปฏิเสธการรักษา

แม้นักเขียนจะแสดงความคิดเห็นของแนวคิดสองฝั่ง แต่เราก็แอบรู้สึกอยู่นิดหน่อยว่านักเขียนมีลำเอียงเล็ก ๆ ใส่ความเป็นตัวร้ายให้กับตัวละครตัวหนึ่งมากกว่านิดนึง อีกทั้งยังมีเรื่องของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินทองและชื่อเสียงเข้ามาเป็นอีกปัจจัยของตัวละครด้วย ทำให้อ่านแล้วก็แอบสงสัยในเจตนาของตัวละครนิด ๆ ไม่ได้ ว่านี่คืออยากรักษาคนไข้ให้หายจริง ๆ หรืออยากให้คนไข้เสียเงินเยอะ ๆ หรือทำเพื่อให้ชื่อเสียงของโรงพยาบาลเป็นที่เลื่องลือกันแน่ ซึ่งมองในอีกแง่มันก็คือทำให้ตัวละครมีมิติและดูเรียลมากขึ้น

บทบาทของคนไข้แต่ละคนก็มีความสำคัญในการเล่าเรื่องมาก เป็นตัวแทนของคนป่วยที่ดราม่าได้พีคมาก ทำให้เราอินและน้ำตาไหลไปกับตัวละครได้เลย และทั้งสามเคสก็แสดงให้เราเห็นว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญก็คือครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ที่จะทำให้คนป่วยนั้นดิ้นรนอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป หรือปลดปลงและปล่อยวาง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้น เราคิดว่าตัวคนป่วยเองควรจะเป็นผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตัดสินใจ และครอบครัว/คนใกล้ชิดหรือคณะแพทย์ก็ควรที่จะเคารพการตัดสินใจของคนป่วยด้วย เขาอาจจะเลือกวิธีการรักษาจนสุดทาง หรือรักษาเพียงบางส่วน หรือปฏิเสธการรักษา ตราบใดที่เป็นเจตนารมย์ของคนป่วย จะเป็นวิธีการไหนเราคิดว่าก็ไม่ควรจะเรียกว่าผิดจรรยาบรรณทางการแพทย์หรอกนะ

ชอบคำโปรยท่อนท้ายที่ปกหลังของเรื่องมากเลย
"หากชีวิตเป็นดั่งดอกซากุระที่ไม่ช้าก็ร่วงหล่น
คุณจะโอบกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้
หรือยืนมองซากุระที่รอวันปลิดปลิว"
Profile Image for Mook.
146 reviews53 followers
November 20, 2021
พออ่านเรื่องราวที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์และการจากลาแล้วอดไม่ได้ที่ต้องน้ำตารื้นทุกที 😭 เล่มเล็กหนาแต่อ่านเพลิน ๆ ค่ะ ลุ้นไปกับการตัดสินใจของคนไข้ในแต่ละสถานการณ์ ได้เห็นอีกมุมมองการทำงานและความรู้สึกของหมอด้วย / ปาดน้ำตาบนแก้มเปียก
Profile Image for tinh tinh.
168 reviews8 followers
February 24, 2021
Cuốn sách kể về 3 câu chuyện: Anh nhân viên văn phòng bị bệnh ung thư bạch cầu, cô sinh viên mắc chứng xơ cứng teo cơ một bên và cuối cùng là anh chàng bác sĩ bị ung thư vòm họng di căn xa. Ai cũng đều đang ấp ủ nhiều dự định, trái tim chứa đầy nhiệt huyết với cuộc đời thế mà...

Vậy nên cuốn sách dù lấp lánh vẻ đẹp của tình bạn, của y đức nhưng việc cái chết cứ lởn vởn vẫn khiến mình không khỏi cảm thấy ngột ngạt.

Nhưng chỉ vậy thôi còn lại cuốn này vô cùng đáng đọc, nó không chỉ cung cấp những kiến thức y học thực tiễn mà còn đánh một vố đau thật đau vào nhân sinh quan (chắc không chỉ riêng mình) rằng quá trình chữa bệnh chỉ giống như “những sản phẩm được đưa lên băng chuyền và chạy theo quy trình đã định mà quên mất họ là con người”, rằng đừng “áp đặt kỳ tích lên bệnh nhân”, rằng giá trị cuộc sống không nằm ở “độ dài” mà ở “cách sử dụng”...

Và sẽ còn ngẫm ra nhiều thứ nữa nếu ai đã từng nghinh qua sinh ly tử biệt, nhìn thấy người thân chịu đau đớn vì chữa trị bệnh tật.

Lời cuối cùng...
Phải giữ gìn sức khoẻ
Phải giữ gìn sức khoẻ
Phải giữ gìn sức khoẻ
- Điều quan trọng phải nói 3 lần
Profile Image for ดินสอ สีไม้.
1,050 reviews174 followers
March 10, 2022
เป็นหนังสือที่พล็อตดี เล่าเรื่องได้ดี
ถ่ายทอดอารมณ์ทั้งในฝ่ายของคนไข้ ญาติคนไข้ หรือแม้แต่หมอเอง
เราได้เห็นทั้งความเข้มแข็งและความอ่อนแอจากทุกฝ่าย

สิ่งที่เดียวที่ไม่ค่อยชอบคือตอนท้ายของเล่ม
เราว่าผู้เขียนตั้งใจใส่ความขัดแย้ง ดราม่า และการหักมุม
(บางคนอาจไม่เรียกการหักมุม เพราะมันเดาได้อยู่แล้ว)
เข้าไปในตอนจบ มันดูไม่ลื่นไหล
ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเนื้อเรื่องที่ปูมา
ผู้เขียนสามารถนำพาผู้อ่านไปสู่ตอนจบอันเดียวกันนี้
ได้ราบลื่นกว่านี้ เนียนกว่านี้
นั่นทำให้เล่มนี้ไปไม่ถึง 5 ดาว สำหรับเรา
Profile Image for addie.
850 reviews58 followers
December 22, 2021
4.25/5 เล่มนี้เป็นหนังสือว่าด้วยหมอสองคนที่รักษาคนไข้ด้วยแนวความคิดสุดโต่งสองทาง คนแรกเป็นหมอที่ให้ความหวังกับคนไข้ ผมจะช่วยคุณสุดความสามารถ ถึงแม้โอกาสจะมีแค่ 1% ผมจะทำให้คุณเป็น 1 คนนั้นให้ได้ ส่วนหมออีกคนคือหมอที่บอกให้เรายอมรับกับความตายและใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้เหมือนเป็นชีวิตของเราจริงๆ โดยหนังสือจะพาเราผ่าน 3 เคสคนไข้ที่กำลังจะตาย

เป็นหนังสือที่อ่านแล้วร้องไห้หนักมากกก โดยเฉพาะเรื่องของคนไข้คนที่สองที่ค่อนข้างจะ relatable ชอบประโยคนึงในเรื่องมากๆที่พูดประมาณว่าบางทีมันอาจจะถูกกำหนดมาไว้แล้วว่าจะเป็นเรา ในฐานะที่เคยสัมผัสคนไข้มาบ้าง เป็นนักศึกษาแพทย์และเป็นคนไข้เอง รู้สึกว่าการอ่านหนังสือเล่มนี้อาจจะช่วยทำให้คนที่อาจจะอยู่ห่างไกลจากความเป็นความตายได้เข้าใจผู้ป่วยมากขึ้นว่าต้องเผชิญกับอะไรอยู่และ (hopefully) ทำให้เกิด empathy

ส่วนสิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ นอกจากจะร้องไห้หนักมากกกกกแล้ว ก็รู้สึกว่าการเป็นหมอที่ดีก็คือการที่หาจุดตรงกลางระหว่างหมอ 2 คนนี้ให้เจอนั่นแหละ

ปล. ขอบคุณพี่มุกมากๆนะคะที่ส่งหนังสือเล่มนี้มาให้อ่าน xoxoxo
Profile Image for Uminaka16.
421 reviews43 followers
November 3, 2021

ชื่อเรื่องกับหน้าปกที่เป็นรูปสุสานก็พอรู้ว่าเนื้อเรื่องจะมาแนวไหน

เรื่องนี้เป็นเรื่องของกลุ่มหมอสามคนที่ 'เคย' สนิทกันตอนเป็นนักศึกษา แต่พอก้าวเข้าสู่วัยทำงาน แนวคิดที่แตกต่างกันทำให้ความสัมพันธ์เริ่มห่างเหินจนรู้ตัวอีกที พวกเขาก็อยู่ตรงข้ามกันซะแล้ว

- คิริโกะ ชูจิ คุณหมอแผนกโรคผิวหนัง ผู้ถูกตั้งฉายาว่า 'ยมทูต' เหตุเพราะคิริโกะมักให้คำปรึกษากับคนไข้ที่หมดทางรักษาว่า แทนที่จะรักษาแบบทรมานไปเรื่อยๆ สู้ออกไปใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอย่างมีความสุขไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งแนวคิดนี้ก็เท่ากับการไล่คนไข้ไปตายนั่นเอง

- ฟุกุฮาระ มาซากาซึ คุณหมอที่มีแนวคิดตรงกันข้ามแบบสุดขั้วกับคิริโกะ หมอฟุกุฮาระจะพยายาทรักษาคนไข้อย่างเต็มที่ เชื่อว่าอาจเกิดปาฏิหาริย์ การมีชีวิตอยู่ไม่ว่าในสภาพไหนก็คือสิ่งที่ดีที่สุด

- โอโตยามะ ฮารุโอะ คุณหมอที่เป็นกลาง ไม่เอียงเข้าฝ่ายไหน หรือเรียกอีกอย่างได้ว่าไม่มีอุดมการณ์ที่ยึดมั่นก็ได้ เป็นคนที่มักลังเล หวั่นไหวไม่เด็ดขาด แต่หลังจากพบกับความตายบ่อยเข้าก็เริ่มจิตใจด้านชา จนนึกสงสัยว่า เราเป็นแบบนี้ดีแล้วหรือ

เรื่องราวในเล่มจะเล่าถึงเคส 3 เคส ผู้ป่วยสามคน พนักงานบริษัทคนหนึ่ง / นักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่ง / หมอคนหนึ่ง ซึ่งทั้งสามเคสนี้จะแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของหมอทั้งสามคนว่าใครคิดยังไง

แต่ว่าสุดท้ายแล้วมนุษย์ก็คือมนุษย์ คนที่แข็งแกร่งเสมอและคิดว่าตนเองสามารถรับความตายของคนไข้ได้ จะยังสามารถมั่นคงได้เหมือนเดิมหรือไม่ หากคนไข้คนนั้นเป็นคนใกล้ตัว ต้องติดตามในเล่มค่ะ

สำหรับการวางตัวละครในเรื่อง อ่านแล้วรู้สึกว่าเหมือนแต่งมาเพื่อทำซีรีส์ยังไงยังงั้น ตัวละครเอกสองคนที่มีแนวคิดต่างกันสุดขั้ว ตัวละครที่เป็นกลางคอยประสานรอยร้าว และตัวละครประกอบที่ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากรอดูความสนุก อ่านแล้วนึกถึงซีรีส์เรื่อง Legal High (แต่เรื่องนั้นเป็นโลกของทนาย)

สำหรับความรู้สึกตอนอ่าน บอกคำเดียวว่าเปียกปอนค่ะ ร้องครั้งแรกหน้า 36 จากนั้นท้ายบทสองก็ร้อง พอท้ายบทสามร้องแบบสะอึกสะอื้นเลยทีเดียว 😭 นักเขียนปูอารมณ์มาดีค่ะ ตอนกลางบทเราก็ว่ามันไม่เท่าไหร่ แต่พอท้ายบทเท่านั้นแหละ น้ำตามันไหลออกมาเอง T T

แต่สารที่แฝงอยู่ในเรื่องดีมาก เพราะนี่ก็เป็นสิ่งที่เราก็คิดอยู่บ่อยๆ ว่าถ้าต้องถีงขนาดใส่เครื่องช่วยหายใจยื้อชีวิตก็ปล่อยให้เราไปอย่างสงบดีกว่า

แนวคิดของหมอทั้งสองไม่มีผิดหรือถูก และคงเป็นสิ่งที่ตัดสินไม่ได้ไปตลอด ก็แล้วแต่ว่าใครจะตัดสินใจแบบไหนแหละค่ะ สำหรับนิยายเรื่องนี้สนุกนะคะ อยากให้อ่านกัน เราอ่านเร็วกว่าเล่มอื่นมาก การแปลก็ดี คำผิดไม่เจอเลย ความรู้เรื่องการแพทย์ก็ดี สำหรับเรื่องความเปียกปอนนั้น ถ้าคุณดูน้ำตาหนึ่งลิตรได้ก็อ่านเรื่องนี้ได้ค่ะ 😄
Profile Image for Đình Minh.
209 reviews7 followers
July 31, 2025
Câu chuyện này chạm đến tôi rồi 😭
Profile Image for Kurogirl.
79 reviews16 followers
Read
November 16, 2021
ขอเขียนรีวิวในฐานะบุคลากรทางการแพทย์ที่มีโอกาสได้ทำงานด้านประคับประครองเหมือนกันนะคะ
เลือกเล่มนี้มาอ่านเพราะสายงานของตัวเองด้วย แต่บอกเลยอ่านไปแล้วไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย

เคสแรกเป็นชายหนุ่มที่ยังมีอนาคตและกำลังจะมีลูก อยู่ดีๆก็ถูกวินิฉัยว่าเป็นลูคีเมีย ชอบบทนี้ตรงที่บรรยายความรู้สึกของผู้ป่วยและญาติได้อย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่การแจ้งข่าวร้าย จนไปถึงการรับรู้และความรู้สึกต่างๆที่เกิดระหว่างที่ป่วย บรรยายได้แบบว่ามันทรมานมากจริงๆ แต่สุดท้ายผู้ป่วยก็ยังพร้อมจะสู้ ถึงผลลัพธ์จะไม่ได้ออกมาดีก็ตาม หมอคิริโกะได้หยิบยื่นหนทางในผู้ป่วยปฏิเสธการรักษาแล้ว แต่ผู้ป่วยก็ยังจะสู้ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าผู้ป้วยจะสู้ หมอก็พร้อมที่จะสู้ไปด้วย แต่อ่านถึงกลางทาง ตัวเราเองยังรู้สึกเลยว่า พอเถอะ มันไม่ไหวแล้ว

เคสที่สองเป็นน้องนศพ.ที่พึ่งสอบเข้าแพทย์ได้ ถูกวินิจฉัยเป็น ALS ยิ่งหนักกว่าเคสแรกเพราะมันไม่มีหนทางในการรักษาเลย นอกจากประคับประครองอาการไปเรื่อยๆ ให้ไม่ทรมาน ส่วนตัวเคยเจอเคสจริงอยู่ 1 ครั้ง การรักษาไม่ได้แตกต่างไปจากที่บรรยายในหนังสือเลย น้องคนนี้ดันมาถูกวินิจฉัยในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตด้วย ช่วงแรกก็เหมือนกับเคสแรก คือมีทั้งช่วงที่ปฏิเสธ โกรธ ต่อรอง และโศกเศร้า สุดท้ายน้องก็ได้เลือกที่จะไม่ขอยื้อชีวิตของตัวเอง ขอรักษาแบบที่ไม่ทรมาน

เคสที่ 3 เป็นคุณหมอตัวกลางระหว่างพระเอกสองคน ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม (ระยะสุดท้ายนั้นแหละ) เรียกว่าเป็น conFlIcT ระหว่างหมอสองคนเลยก็ว่าได้ เพราะพอเป็นเพื่อนตัวเองเท่านั้น เลยมีความรู้สึกต่างๆมาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจด้วย เคสนี่เราได้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่า uNfInIsH BuSiNeSs ของผู้ป่วย คุณหมอทราบดีว่าพอเป็นมะเร็งระยะลุกลาม ยังไงด็ไม่มีทางหาย เลยขอเลือกจะทำตาทสิ่งที่ยังค้างคาใจเขาอยู่ ซึ่งก็คือคุณยายของเขา เพราะเมื่อได้ทำตามความปรารถนาสุดท้ายแล้ว เขาก็สามารถจากไปได้อย่างไม่มีอะไรค้างคาใจ

เป็นเรื่องที่เขียนออกมาได้ดีมากๆ บรรยายความรู้สึกของตัวผู้ป่วยออกมาได้ดีเลย ส่วนการตัดสินใจของแพทย์ เราไม่ได้ตัดสินว่าอะไรถูก อะไรผิด นอกจากการตัดสินใจของแพทย์ ผู้ป่วยและครอบครัวควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการรักษาด้วย สุดท้ายนี้ เราอยากให้ทุกคนได้รู้จักกับคำว่า การรักษาแบบประคับประครอง หรือ pAlLiAtIvE CaRe มากขึ้น เพราะมันไม่ใช่การชี้นำให้ผู้ป่วยเข้าสู่ความตาย แต่มันคือการรักษาโดยยึดมั่นให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด โดยไม่ได้เป็นการเร่งความตายหรือยื้อชีวิตอย่างไม่มีประโยชน์
This entire review has been hidden because of spoilers.
Profile Image for konnichiwa.hoadesu.
98 reviews3 followers
June 19, 2021
đọc cuốn này vào đúng mấy hôm đang xem Hospital Playlist nên có cảm giác hơn hẳn.
lúc đầu nhìn cái bìa hoa anh đào hường phấn cứ tưởng đây là một câu chuyện tình cảm, rồi đọc phần mục lục ở ngay đầu lại tưởng trinh thám phá án trong bệnh viện gì đó, hoá ra đều nhầm hết.
cuốn sách nói về nghề bác sĩ, về sự sống và cái chết, về lý tưởng của những người mang chiếc áo blouse trắng, về tình bạn... dù không đến nỗi khiến mình khóc, nhưng những trang cuối thực sự rất buồn.
Profile Image for Ottoshi Intel.
169 reviews17 followers
July 19, 2021
หมอสามคน ที่เรียนมาด้วยกัน เป็นความผูกพันธ์ สองคนสุดโต่งกันคนละฝั่ง อีกคนอยู่ตรงกลาง ความสัมพันธ์ในโรงพยาบาล
นิยายอ่านเพลินไม่สะดุด อ่านดูเข้ากับบรรยากาศโรงพยาบาล การรักษาช่วงนี้จริงๆ

เพราะชีวิตมันไม่แน่นอน โรคต่างๆหมุนอยู่รอบตัวเรา บางครั้งเราก็ไม่รู้ตัว รู้อีกทีก็เกินจะเยียวยา ยังไงแล้วชีวิตก็คงต้องเดินต่อไป อ่านแล้วได้พลัง กลับมาดูแลตัวเองดีเหมือนกัน หนังสือเล่มหนาหน่อย แต่ตีพิพม์อ่านง่ายลื่นไหล ไม่มีสะดุด เพลินๆครับ
Profile Image for Sơn Văn.
46 reviews
March 3, 2021
3 BÁC SĨ, 3 BỆNH NHÂN... NHƯNG 5 NHÂN VẬT
Chắc khó hiểu, đọc đi rồi mọi người sẽ thấm. Khi con người ở ngưỡng cửa sinh tử sẽ nghĩ gì? Dạy bạn phải cố gắng hay nên từ bỏ hay cả 2? Sự lựa chọn nào là thấu đáo nhất? Một tác phẩm thật hay đem đến cho người đọc từng khía cạnh tâm lí nhân vật... đọc đi đừng khóc nhé 😇
Profile Image for Loc Ngo Lam Gia.
138 reviews7 followers
September 21, 2020
Bệnh viện đâu phải là một nơi nên trở nên phồn thịnh và rực rỡ.
Ai rồi cũng mất và ta sẽ đối diện với nó như thế nào? Ta sẽ sống một cuộc sống ra sao? Một câu chuyện hay với nhiều góc nhìn về cuộc sống và nghề y bác sĩ.
Profile Image for Nattapan.
2,320 reviews76 followers
January 24, 2022
Death​ is​ unavoidable,​ and​ this​ story​ surely​ give​s​ you​ something​ to​ think​ about.

From​ the​ quote​ below, you​ can​ clearly​ see​ that​ I​ am​ a​ support​er of​ doctor​ Kiriko's perspective.

"It is not length of life, but depth of life." (Ralph Waldo Emerson)​
Profile Image for Emi.
988 reviews37 followers
July 1, 2020
死が目の前に迫った時、死とどう向き合うか。
例えば余命宣告を受けたのが自分だったら、家族だったら、友人だったら。医者として関わっていたら。。。立場が変われば何を最善とするかも変わるかもしれない。
生と死、死との向き合い方について、すごく考えさせられるお話だった。そして涙せずにはいられないお話。
11 reviews
December 21, 2020
4.5 sao. Một cuốn sách hay đầy cảm động của những người làm nghề bác sĩ về quan điểm cách sống có ý nghĩa.
Profile Image for Trung Tín.
16 reviews
July 30, 2021
Cuốn sách là những nỗi lòng của người bác sĩ, là những đắn đo của người bệnh.Không phải cứ sông lâu là được mà ta sống sao cho ý nghĩa, trân trọng từng khoảnh khắc bên người thân.
Profile Image for Npasinee.
89 reviews5 followers
January 29, 2022
มีจุดขัดใจความสุดขั้วมากๆจนดูเกินจริงไปหน่อย​ แต่โดยรวมดีมาก​ มีความฟีลกู๊ด​ ทำให้ได้สะท้อนตัวเอง รายละเอียดใดๆที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาก็บรรยายดีมาก
51 reviews3 followers
February 16, 2022
เป็นหนังสือที่ดีมากจริงๆ บอกเล่าเรื่องราวหมอกับคนไข้ได้แบบเห็นภาพสุดๆ
Profile Image for Asuto.
167 reviews31 followers
February 5, 2023
Đọc cuốn này làm mình nhớ đến lựa chọn của Will trong "Me before you".
Profile Image for Javier.
27 reviews
Want to read
September 17, 2023
Pendiente
Su nombre: Saigo no Isha wa Sakura wo Miagete Kimi wo Omou
Castellano: Los últimos doctores
Profile Image for Futaba Yasu.
17 reviews2 followers
July 6, 2024
Mình có nhiều cảm xúc khi đọc quyển này. Cái cảm giác sốc, buồn bã khi biết tin bản thân mắc bệnh nan y và cả tin thần bất khuất không chịu đầu hàng trước bệnh tật của bệnh nhân...
Displaying 1 - 27 of 27 reviews

Can't find what you're looking for?

Get help and learn more about the design.